เทคนิคการหาสินค้ามาขายในช่วงเทศกาล
แม้ว่าเทศกาลปีใหม่จะได้ผ่านไปแล้ว แต่สำหรับประเทศไทยในช่วงต้นปี ตลาดการค้าปลีกยังคงมีความคึกคักอย่างต่อเนื่อง ด้วยเทศกาลในช่วงต้นปีที่กำลังใกล้เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นวันวาเลนไทน์ วันตรุษจีนหรือวันสงกรานต์ ล้วนจูงใจให้ผู้คนจับจ่ายใช้สอยกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับร้านค้าออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นรายใหม่และรายเก่าต่างก็อยากจะหาสินค้ามาขายเพื่อเพิ่มรายได้กันในช่วงนี้ เราลองมาดูกันว่านักช๊อปเค้าซื้ออะไรกันในช่วงเทศกาล และเราจะหาสินค้าเหล่านั้นมาขายได้จากที่ไหน และกลยุทธ์เด็ดในการขายสินค้าช่วงเทศกาลคืออะไรบ้าง มาติดตามกันได้เลย
1.คัดสรรสินค้าดี
การจะมียอดขายได้นั้น ร้านค้าต้องคัดเลือกสินค้าที่น่าสนใจ อยู่ในกระแส หรือสินค้าที่มีความนิยมสูงในช่วงเทศกาลนั้นๆ และยังต้องคัดสรรคุณภาพของสินค้าที่นำมาขายด้วย อย่างเช่นตัวอย่างสินค้าขายดีในช่วงเทศกาลต่างๆ และแหล่งซื้อสินค้ามาขายดังนี้
วันวาเลนไทน์
-นาฬิกา เครื่องประดับ เสื้อคู่ ตุ๊กตา
แหล่งซื้อสินค้า:
-นาฬิกา เครื่องประดับและตุ๊กตา: สำเพ็ง หรือสั่งซื้อจากผู้ผลิตโดยตรง
-เสื้อคู่: สำเพ็ง ประตูน้ำ
เทศกาลตรุษจีน
-เสื้อผ้า เช่น ชุดกี่เพ้า เสื้อคอจีนสีแดงและสีทอง
-อุปกรณ์ไหว้เจ้า เช่น กระดาษเงิน กระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษ
-ป้ายคำอวยพรอักษรจีนและปฏิทินจีน
แหล่งซื้อสินค้า:
-เสื้อผ้า ชุดจีน หาซื้อได้จากตลาดโบ๊เบ้ เยาวราช และประตูน้ำ
-อุปกรณ์ไหว้เจ้า ป้ายคำอวยพรอักษรจีน และปฏิทินจีน: ย่านเยาวราช บริเวณถนนมังกร
เทศกาลสงกรานต์
-อุปกรณ์สำหรับงานรดน้ำดำหัว เช่น น้ำอบไทย ขันเงิน
-ของขวัญ ของฝาก เช่น เสื้อผ้าสำหรับผู้สูงอายุ เครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องนอน และผ้าขนหนูขนาดต่างๆ
-อุปกรณ์เล่นน้ำ เช่น ปืนฉีดน้ำ ขัน ถังน้ำ สระว่ายน้ำแบบเป่าลม เสื้อผ้าสีสันสดใสหรือลายดอก
-อุปกรณ์กันแดด เช่น โลชั่นกันแดด หมวก ร่ม
-สิ่งที่ใช้ปกป้องอุปกรณ์ไอที เช่น ซองใส่โทรศัพท์กันน้ำ กระเป๋ากันน้ำ
แหล่งซื้อสินค้า:
-อุปกรณ์เล่นน้ำและอุปกรณ์กันน้ำ กันแดด: สำเพ็ง
-เสื้อผ้า: ตลาดโบ้เบ้ ประตูน้ำ สำเพ็ง พาหุรัด
-ดินสอพอง: แหล่งผลิตอยู่ที่หมู่บ้านดินสอพอง จ.ลพบุรี สามารถติดต่อผู้ผลิตเพื่อสั่งซื้อจำนวนมากได้
2.จัดโปรโมชั่นโดนใจ ทำการตลาดเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย
การมีสินค้าดีย่อมได้เปรียบ แต่อย่าลืมว่าคู่แข่งในการขายสินค้าของเราไม่ได้มีเพียงร้านค้าออนไลน์ด้วยกันเท่านั้น แต่ยังมีร้านค้าจริง ที่ขายสินค้านั้นอยู่แต่เดิม ดังนั้น ร้านค้าออนไลน์ควรต้องทำราคาที่น่าสนใจ โดยอาจจัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับการสั่งล่วงหน้าในช่วงหนึ่งๆ อีกทั้งเน้นให้ลูกค้าเห็นประโยชน์ด้านความสะดวกจากการสั่งซื้อออนไลน์ด้วย
และเนื่องจากปัจจุบันผู้คนต่างใช้อินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน เราจึงควรทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ในช่วงก่อนเทศกาลจะมาถึง ไม่ว่าจะผ่านทางเว็บไซต์ของร้านค้าเอง ผ่านทาง Marketplace หรือใช้เครื่องมือการตลาดออนไลน์ เช่น Facebook และ Google โดยทำการโปรโมทที่เจาะจงไปยังกลุ่มเป้าหมายเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายของร้านค้าอีกทางหนึ่ง
3.ประมาณการยอดขาย บริหารสต๊อค
การขายสินค้าในช่วงเทศกาลนั้นมีลักษณะพิเศษคือ ความต้องการมีมาก มาไว และหมดไว หากหมดเทศกาล ลูกค้าก็ไม่มีความต้องการสินค้านั้นอีกต่อไป นอกจากการทำการตลาดแล้ว การประมาณการยอดขายก็เป็นสิ่งสำคัญ ร้านค้าควรมีการวางแผนการขายว่าในช่วงเทศกาลนั้นๆ เราคาดหวังยอดขายเท่าไหร่ ประเมินต้นทุนที่จะเกิดขึ้น แผนการสั่งซื้อและแผนการขายสินค้า เพื่อวางขอบเขตการขายให้ชัด ซึ่งจะทำให้การสั่งซื้อสินค้าจากผู้ผลิตหรือพ่อค้าคนกลางมีประสิทธิภาพ ขายสินค้าได้หมด มีสินค้าเพียงพอสำหรับส่งในช่วงนั้นๆ และมีสินค้าเหลือให้น้อยที่สุด
4.จัดส่งไวทันใช้
การขายสินค้าช่วงเทศกาลนั้นต้องให้ความสำคัญเรื่องความรวดเร็วในการจัดส่ง เพราะนอกจากจำนวนวันที่สามารถขายสินค้าได้จะมีจำกัดแล้ว การจัดส่งก็อาจมีข้อจำกัดได้ หากเทศกาลนั้นตรงกับวันหยุดยาว ดังนั้น ร้านค้าควรระบุที่หน้าร้านออนไลน์ให้ชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขการจัดส่ง ว่าสามารถส่งได้ภายในกี่วัน และอาจมีการให้สิทธิพิเศษสำหรับการสั่งซื้อสินค้าก่อนช่วงเทศกาลสัก 2-3 สัปดาห์ อีกทั้งร้านค้าควรบริหารการจัดส่งต่อวันให้ได้มากที่สุด โดยอาจเพิ่มรอบการส่งมากขึ้น เพื่อกระจายการจัดส่งไม่ให้ไปหนาแน่นในช่วงเทศกาลที่ลูกค้าจะต้องใช้สินค้านั้นๆ และช่วงที่ใกล้วันที่บริษัทขนส่งหยุดทำการ
ที่มา www.weloveshopping.com